การใช้เชื้อไวรัส เอ็น พี วี ควบคุมแมลงศัตรูพืช |
|
ความสำคัญ | |
เชื้อไวรัส เอ็น พี วี
เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมศัตรูพืช
มีความเจาะจงต่อชนิดของแมลงศัตรู พืชสูงมาก จึงไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตนอกเป้าหมายที่เราไม่ต้องการทำลาย แมลงเป้าหมายไม่สามารถต้านเชื้อไวรัส เอ็น พี วี ได้ นอกจากนั้นยังไม่มีพิษตกค้างบนผลผลิตพืช และยังเป็นการช่วยอนุรักษ์ศัตรูธรรมชาติและแมลงช่วยผสม เกษร ในปัจจุบันประเทศไทยมีเชื้อไวรัส เอ็น พี วี ที่ใช้ในการควบคุมศัตรูพืช 4 ชนิด ได้แก่ เอ็น พี วี หนอนกระทู้หอม เอ็น พี วี หนอนกระทู้ผัก , เอ็น พี วี หนอนเจาะสมอฝ้าย และ เอ็น พี วี หนอนคืบกะหล่ำปลี โดยมีวิธีการใช้เหมือนกับ การใช้สารเคมี คือใช้ฉีดพ่นพร้อมกับสารเคมีก็ได้นอกจากนั้นเกษตรกรยังสามารถผลิตขยายเชื้อไวรัส เอ็น พี วี ไว้ใช้ควบคุม ศัตรูพืชได้เองอีกด้วย |
|
<< หนอนเจาะสมอฝ้ายศัตรูสำคัญของพืชหลายชนิด | |
<< หนอนกระทู้ผัก สร้างความเสียหายอย่างมากกับพืชตระกูลผัก |
วิธีการใช้เชื้อไวรัส เอ็น พี วี | |||||
1) เลือกชนิดของเชื้อไวรัส เอ็น พี วี
ที่ตรงกับศัตรูพืชที่ต้องการทำลาย 2) ใช้เชื้อไวรัส เอ็น พี วี อัตรา 20 - 30 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือให้ผสมตามคำแนะนำในฉลาก + สารจับใบ 3) ฉีดพ่นในขณะที่หนอนยังมีขนาดเล็ก (ขนาดไม่ใหญ่เกินก้านไม้ขีดไฟ) 4) ตรวจสอบแมลงศัตรูพืชหลังฉีดพ่นได้ 5 - 6 วัน เก็บหนอนที่ตายด้วยเชื้อไวรัส เอ็น พี วี ไว้ทำหัวเชื้อต่อไป
|
|||||
ลักษณะอาการของหนอนที่ตายจากเชื้อไวรัส เอ็น พี วี | |||||
ซึม สีซีด ไต่ขึ้นที่สูง | ลำตัวหดสั้นและบวม | ตายในลักษณะห้อยหัวลง | |||
|
จำนวนครั้งการใช้เชื้อไวรัส เอ็น พี วี | |
1) หอมแดง หอมแบ่ง และหอมหัวใหญ่
เมื่อพบไข่ของหนอนกระทู้หอม 1 กลุ่มทุกๆ
2 ตารางเมตร หรือเมื่อพบการ ระบาดของหนอนวัยอ่อน ควรพ่นเชื้อไวรัสทุกๆ 3 วัน ติดต่อกัน 3-4 ครั้ง 2) พืชผัก พืชสวน เมื่อพบการระบาดของหนอนกระทู้ผักควรฉีดพ่นไวรัส ทุกๆ 3 วัน 2 ครั้งติดต่อกัน จากนั้นจึง ฉีดพ่นสัปดาห์ละ 1 ครั้ง 3) ในฝ้าย ยาสูบ และพืชไร่ เมื่อพบการระบาดของหนอนเจาะสมอฝ้าย 50 เปอร์เซ็นต์ (100 ต้นพบหนอนเข้าทำลาย 50 ต้น) ควรพ่นสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 3 ครั้ง |
|
การผลิตขยายเชื้อ เอ็น พี วี อย่างง่าย | |
1) แบ่งแปลงปลูกไว้ 1
แปลง สำหรับใช้เลี้ยงหนอนและห้ามฉีดพ่นสารเคมีกำจัดแมลง 2) เก็บรวบรวมหนอนและผีเสื้อเป้าหมายมาเลี้ยงบนแปลงพืชที่จัดแบ่งไว้ 3) เมื่อหนอนมีขนาดเท่าก้านไม้ขีดไฟ พ่นหัวเชื้อไวรัส เอ็น พี วี ทุกวันติดต่อกัน 3 วัน 4) ภายหลังจากการพ่นครั้งแรก 4 - 5 วัน จะพบหนอนตายเก็บหนอนที่มีอาการตายจากเชื้อไวรัส เอ็น พี วี ใส่ในขวด สีชา 50 ตัว ต่อ ขวด และเติมน้ำอีก 50 ซี ซี 5) ทิ้งไว้ 4 - 5 วัน บดและนำมาใช้เป็นหัวเชื้อไวรัส เอ็น พี วี เพื่อควบคุมหนอนศัตรูพืชชนิดนั้นต่อไปได้ 6) หากยังไม่ได้นำไปใช้ทันที ต้องเก็บในตู้เย็นช่องแช่ผักได้นาน 1 ปี และแช่แข็งได้เป็นเวลานาน 3 ปี |
|
ข้อดีและข้อจำกัดของเชื้อไวรัส เอ็น พี วี | |
ข้อดี | |
1) เจาะจงทำลายเฉพาะแมลงศัตรูพืชเป้าหมาย 2) ปลอดภัยต่อมนุษย์ สัตว์ และสภาพแวดล้อม 3) เมื่อมีการใช้เชื้อไวรัส เอ็น พี วี ไปได้ระยะหนึ่งเชื้อไวรัส เอ็น พี วี จะแพร่ขยายและมีการระบาดในประชากรศัตรูพืช เป้าหมาย จนไม่สามารถเพิ่มปริมาณเข้าทำความเสียหายกับพืชในพื้นที่นั้นอีก
|
|
ข้อจำกัด | |
1) ผู้ใช้ต้องรู้จักชนิดของศัตรูพืช
และเมื่อจะใช้เชื้อไวรัส เอ็น พี วี
ต้องเลือกใช้ให้ตรงกับชนิดของศัตรูพืช ที่ต้องการใช้จึงจะได้ผล 2) การเก็บรักษาและขนส่งต้องเก็บในที่เย็น 3) ผลิตภัณฑ์ เอ็น พี วี ที่ผลิตเป็นการค้ายังมีราคาแพงและมีจำหน่ายไม่ทั่วถึง |
|