เชื้อราเมตาไรเซียม (Metarhizium anisopliae) |
|
ประโยชน์และความสำคัญ | |
เชื้อราเมตาไรเซียม เป็นจุลินทรีย์ควบคุมแมลงศัตรูพืช
ที่ทำให้เกิดโรคกับแมลงศัตรูพืช เมื่อสปอร์ของเชื้อราสัมผัส โดนตัวของแมลงในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและมีความชื้นสูงจะเกิดการเจริญงอกเข้าไปในตัวของแมลง ในระยะแรก จะเห็นจุดสีน้ำตาลบนผนังลำตัว และต่อมาสามารถมองเห็นเส้นใยสีขาวเจริญเติบโตบนลำตัวของแมลง หลังจากนั้นจะพบ สปอร์ลักษณะคล้ายฝุ่นสีเขียวคล้ำปกคลุมทั่วตัวของแมลง หากบีบแมลงที่ตายจะพบว่าลำตัวของแมลงจะมีลักษณะแข็ง |
|
|
◄หัวเชื้อราเมตาไรเซียม สำหรับนำไปขยายเป็นเชื้อพร้อมใช้ |
|
◄เชื้อราเมตาไรเซียมพร้อมใช้ |
การเข้าทำลายแมลงของเชื้อราเมตาไรเซียม |
|
|
เชื้อราเมตาไรเซียม สามารถทำลายแมลงศัตรูพืชที่สำคัญ ดังนี้ | |
1.ปลวก |
![]() |
2.หนอนด้วงทราย |
![]() |
3.หนอนด้วงแรด |
![]() |
4.หนอนด้วงเจาะลำต้นอ้อย |
![]() |
5.ด้วงงวง |
![]() |
วิธีการนำเชื้อราเมตาไรเซียมไปใช้ |
1.
การผสมน้ำฉีดพ่น
ใช้เชื้อราเมตาไรเซียม
(เชื้อสด) อัตรา
100 กรัม ต่อน้ำ
20 ลิตร โดยกวนแล้วขัดวัสดุเลี้ยงเชื้อ ให้สปอร์ที่ติดมาหลุดละลายลงในน้ำ แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง พร้อมใส่สารจับใบหรือน้ำยาล้างจาน ก่อนนำไปฉีดพ่น ให้สัมผัสถูกกับตัวแมลงมากที่สุด (ควรฉีดพ่นในช่วงเวลาตอนเย็น) และฉีดพ่น 2-3 ครั้ง ระยะห่างคราวละ 5-7 วัน |
||
2.
ทำกองล่อ
ใช้ท่อนไม้ตัดเป็นท่อนยาวประมาณ 2 เมตร
ทำขอบด้วยการวางท่อนไม้ให้เป็นรูปสี่เหลี่ยม ขุดดินภายใน กองให้ลึกประมาณ 50 เซนติเมตร แล้วใส่เศษซากพืชเศษอินทรีย์วัตถุต่างๆ และปุ๋ยคอกให้เต็มกองล่อ รดน้ำเพิ่มความชื้น ในกองล่อเพื่อให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดี หาวัสดุคลุมกองล่อ เช่นทางมะพร้าว หลังจากนั้น 2-3 เดือน จะเริ่มพบด้วง มาวางไข่และเจริญเติบโตเป็นตัวหนอน ให้ใช้เชื้อราเมตาไรเซียม 1-2 กิโลกรัม ผสมน้ำราดให้ทั่วกองล่อ |
||
|
||
ลักษณะของแมลงศัตรูพืชที่ถูกเชื้อราเมตาไรเซียมเข้าทำลาย | ||
|
|
|
![]() |