มวนเพชฌฆาต 1 ตัว สามารถทำลายหนอนได้ 4 - 5 ตัวต่อวัน
       ชื่อสามัญ  มวนเพชฌฆาต (Assassin bugs)
     ชื่อวิทยาศาสตร์  Sycanus  collaris
     ชื่อวงศ์ (Family)  Reduviidae
     อันดับ  (Order)  Hemiptera
     ประเภท       แมลงตัวห้ำ
 
  ความสำคัญ
      มวนเพชฌฆาต เป็นแมลงตัวห้ำที่มีบทบาทในการควบคุมหนอนผีเสื้อหลายชนิด โดยดูดกินของเหลวภายในตัวหนอน  การใช้

  ประโยชน์จากมวนตัวห้ำชนิดนี้  สามารถทำได้โดยทำการเพาะเลี้ยง เพิ่มให้มีปริมาณมากในห้องปฏิบัติการ  หรือโรงเลี้ยงแมลง

  แล้วนำไปปล่อยในแปลงปลูกพืช  เพื่อที่จะให้เกิดผลการควบคุมศัตรูพืชขึ้นและส่งผลให้เกษตรกรลดการใช้สารเคมีฆ่าแมลงได้

 

 
  วงจรชีวิต
 ไข่ ระยะเวลา 20

วัน

 วัยที่ 1 ระยะเวลา 12

วัน

 วัยที่ 2 ระยะเวลา 13

วัน

 วัยที่ 3 ระยะเวลา 31

วัน

 วัยที่ 4 ระยะเวลา 21

วัน

 วัยที่ 5 ระยะเวลา 20

วัน

 ตัวเต็มวัย ระยะเวลา 30 วัน
 รวมอายุขัย ระยะเวลา 90 - 120 วัน
 
  ลักษณะการทำลาย
        ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินของเหลว (Body fluid) จากแมลงต่างๆ ทั้งชนิดที่เป็นตัวหนอนและตัวเต็มวัย

 โดยการปล่อยน้ำพิษออกจากปากทำให้เหยื่อเป็นอัมพาตอย่างรวดเร็ว  และเคลื่อนไหวไม่ได้และหนอนจะตายภายใน

 1 - 2 นาที  จากนั้นจะดูดกินของเหลวจากตัวหนอน และทำให้หนอนแห้งตาย ทิ้งไว้แต่ผนังลำตัวที่ห่อหุ้มอยู่ภายนอก

 

   
 
<< ลักษณะการทำลายของมวนเพชฌฆาต
 
 
..................................................................................................
 
  รูปร่างลักษณะ
 » ระยะไข่  มีรูปร่างลักษณะเป็นแท่งยาวรี สีเหลือง ซึ่งถูกยึดด้วยใยสีน้ำตาลหรือหุ้มด้วยมูกสีขาว โดยรวม
 เป็นกลุ่มจำนวนประมาณ 30-230 ฟอง ต่อไข่หนึ่งกลุ่ม  ในตัวเต็มวัยเพศเมียจะวางไข่ 8-10 ครั้ง  เฉลี่ย
 438 ฟอง / ตัว  ไข่ที่วางใหม่ๆ จะรวมกลุ่มอยู่แน่นต่อมาไข่แต่ละฟองจะเริ่มแยกออกมาเล็กน้อย  และจะ
 เปลี่ยนสีเป็นสีส้มแดง  ก่อนจะฟักออกมาเป็นตัวอ่อนวัยที่ 1 ซึ่งระยะตัวอ่อนมี 5-6 ระยะ  ซึ่งจะเปลี่ยนวัย
 โดยการลอกคราบและขนาดของลำตัวจะใหญ่ขึ้นทุกครั้ง
 
................................................................................................................................................................
 
 » วัยที่ 1  เป็นตัวอ่อนฟักออกมาจากไข่ใหม่ๆ จะมีรูปร่างลักษณะคล้ายมดแดง ตัวสีส้มแดง  เมื่อออกจากไข่
 ตัวอ่อนจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม  ตัวอ่อนวัยนี้จะเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ และจะยังไม่กินอาหาร
 นอกจากน้ำเท่านั้น
 
 
 
................................................................................................................................................................
 
 » วัยที่ 2  มีขนาดลำตัวใหญ่กว่าวัยที่ 1 ลำตัวสีแดง  ตัวอ่อนวัยนี้เริ่มจะกระจายตัวและเคลื่อนไหวเร็วขึ้น
 เริ่มกินเหยื่อที่ลำตัวอ่อนนิ่ม  หรือดักแด้หนอน
 
 
 
 
................................................................................................................................................................
 
 » วัยที่ 3  มีขนาดลำตัวใหญ่ขึ้นมีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วขึ้น  มีการกระจายตัวและกินเหยื่อได้มากกว่า
 ตัวอ่อนวัยที่ 2
 
 
 
 
................................................................................................................................................................
 
 » วัยที่ 4  มีขนาดลำตัวใหญ่ขึ้น  มีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วขึ้น  เริ่มมีขอบของส่วนท้องด้านข้าง
 ยื่นขยายออกมากขึ้นมาเหนือปีกเล็กน้อย
 
 
 
 
................................................................................................................................................................
 
 » วัยที่ 5  มีขนาดลำตัวใหญ่ขึ้น  มีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและว่องไหวมาก  ขอบของส่วนท้องด้านหน้า
 ยื่นขยายออกขึ้นมาเหนือปีก  มากกว่าตัวอ่อนวัยที่ 4 และสามารถกินเหยื่อได้มากกว่าตัวอ่อนวัยอื่น
 
 
 
 
................................................................................................................................................................
 
   
   
  ตัวเต็มวัย
         เมื่อตัวอ่อนวัยที่ 5 ลอกคราบมาใหม่ๆ จะเป็นตัวเต็มวัยซึ่งจะมีลำตัวสีแดงสดปนดำ หรือสีเหลืองปนดำมีปีกบางๆ ตรงกลาง

  สันหลัง  หนามของแผ่นสามเหลี่ยมสันหลังยาวตั้งขึ้นเล็กน้อย   ส่วนของขายังไม่ดำเข้มที่ข้อต่อของขาแต่ละข้างสีออกน้ำตาล

  ปลายหนวดมีสีแดง โคนหนวดมีสีดำเคลื่อนไหวได้ช้าและอ่อนแอ  ต่อมาสีของลำตัวจะเข้มขึ้น  สันหลังอกปล้องแรกเกือบสีดำ

  ตัวผู้มีลักษณะลำตัวยาว และผอม  ส่วนตัวเมียจะมีลักษณะตัวอ้วนกว่าเพศผู้  ส่วนหัวแคบ  คอยาว  ลำตัวยาวประมาณ 2-2.5 ซม.

 
  คุณประโยชน์
         มวนเพชฌฆาตทำลายศัตรูพืช (เหยื่อ) ได้หลายชนิด  แต่ต้องเป็นเหยื่อที่มีชีวิตและที่มีผิวหนังหุ้ม  พอที่จะใช้เข็มที่ปากแทง

  ผ่านผนังลำตัวเข้าไปได้ เช่น หนอนคืบกะหล่ำปลี  หนอนคืบฝ้าย  หนอนเจาะสมอฝ้าย  หนอนไหม  หนอนคืบลำไย  หนอนแก้วส้ม

  หนอนผีเสื้อต่างๆ หรือแม้กระทั่งมวนศัตรูพืช เช่น มวนเขียว เป็นต้น

           มักจะพบมวนเพชฌฆาตตามสวนผลไม้ต่างๆ เช่น สวนส้ม  มะม่วง และลำไย  พืชไร่ เช่น ฝ้าย  ยาสูบ และพืชต่างๆ ที่มีแมลง

  ศัตรูพืชทำลาย  โดยมีเขตแพร่กระจายอยู่ทางภาคกลาง  ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย  โดยเฉพาะ

  ในเขตจังหวัดที่มีการทำสวนผลไม้ต่างๆ

       
  การใช้ มวนเพชฌฆาต ควบคุมแมลงศัตรูพืช
         1. ทำการสำรวจประชากรของหนอนผีเสื้อกินใบ  ดอก  ผล  และความเสียหายของพืชในไร่  พืชผัก  ไม้ผล  ไม้ดอก

                » กรณีเริ่มสำรวจพบหนอนในแปลง  ปล่อยมวนเพชฌฆาต ตั้งแต่วัยอ่อนวัยที่ 3 ถึงตัวเต็มวัย ในพืชผัก  พืชไร่  ไม้ดอก

            ไม้ผล  จำนวน 100 ตัวต่อไร่

                » กรณีสำรวจพบหนอนในปริมาณมาก  ปล่อยมวนเพชฌฆาต ตั้งแต่วัยอ่อนวัยที่ 3 ถึงตัวเต็มวัย ในพืชผัก  พืชไร่

            ไม้ดอก  ไม้ผล  จำนวน 2,000 ตัวต่อไร่

            2. หลังจากปล่อยมวนเพชฌฆาตแล้ว 7 วัน  ทำการสำรวจประชากรของหนอนผีเสื้อและความเสียหายของพืช

                เพื่อประเมินการควบคุม

            3. แนะนำให้ปล่อยมวนเพชฌฆาตติดต่อกัน 2 ครั้ง คือ ในช่วงต้นฝนและปลายฝนหรือทยอยปล่อยทีละเล็กละน้อยตามจำนวน

               ที่พอจะหาได้ เพื่อให้มวนที่ปล่อยไปนั้นแพร่พันธุ์และพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้  ในสภาพแวดล้อมใหม่